การเลือกแบบแหวนตัวเรือนเครื่องประดับเพชร

การเลือกแบบแหวนตัวเรือนเครื่องประดับเพชร

1. การเลือกโลหะขึ้นตัวเรือนแหวน โลหะที่เป็นที่นิยมที่ใช้สำหรับทำแหวนหมั้น-แหวนแต่งงานได้แก่
- ทอง (Yellow Gold) ความบริสุทธิ์ของทอง ที่แนะนำสำหรับทำตัวเรือน ควรเป็นทองที่มีความบริสุทธิ์ 75% (18K) หรือ 90% (22K) เพื่อให้มีความแข็งเพียงพอที่จะเกาะเพชรได้แข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่ายขณะสวมใส่ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวสองสี หรือผิวคล้ำ
- ทองขาว (White Gold) ก็คือทองคำ ที่มาทำให้ขาวขึ้นด้วยพาราเดียมและโรเดียม โดยต้องมีการเคลือบชิ้นงานให้ดูขาวเงา เหมาะกับผู้ที่มีสีผิวขาว หรือผิวเหลือง
- ทองคำขาว (Platinum) เป็นแร่โลหะสีขาว นำมาใช้งานที่ความบริสุทธิ์ 90% และ 95% มีความแข็ง ทนทาน หนัก และจุดหลอมเหลวสูงกว่า มักนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องบิน มีราคาสูงกว่ามากและค่าแรงในการขึ้นตัวเรือนสูงกว่า และทำตัวเรือนยากกว่าเพราะมีจุดหลอมเหลวที่สูง

2. เลือกรูปแบบเทคนิคการขึ้นตัว เรือนฝังเพชร

- การขึ้นตัวเรือนแบบหนามเตย (Prong or Claw Setting) มีหนามเตยยกชูเพชรขึ้นมาจากตัวเรือน ช่วยทำให้เพชรมีความโดดเด่น ราคาไม่แพง ตัวเรือนยึดเพชรอย่างแข็งแรงมั่นคง

- การขึ้นตัวเรือนแบบทิฟฟานี (Tiffany Setting) เป็นการขึ้นตัวเรือนแบบหนามเตยที่มีขา 4-6 ขาแบบยาวเรียวยึดเพชรไว้

- การขึ้นตัวเรือนแบบหุ้ม (Bezel or Tube Setting) เพชรถูกตีกรอบด้วยโลหะตัวเรือน ช่วยป้องกันขอบและฐานของเพชรได้อย่างดี

- การขึ้นตัวเรือนแบบสอด (Channel setting) ใช้ แถบโลหะตัวเรือน 2 เส้นยึดเพชรไว้สองด้านคล้ายราง รถไฟ นิยมฝังเพชรทรงกลมขนาดเล็กเท่าๆกันต่อกัน ช่วยป้องกันขอบเพชร

- การขึ้นตัวเรือนแบบจิกไข่ปลา (Pave or Bead Setting) เพชรจะถูกฝังอยู่ติดกันโดยมีโลหะตัวเรือนเล็กๆ ขั้นกลาง สำหรับยึดเพชรขนาดเล็กให้ติดๆกัน

- การขึ้นตัวเรือนแบบไร้หนาม (Invisible or Boundless Setting) เพชรถูกฝังติดกันแน่นโดยซ่อนโลหะยึด เพชรไว้ใต้เพชร เห็นผิวหน้าเพชรต่อเนื่อง ช่วยเพิ่มความเป็นประกายให้กับเพชร

- การขึ้นตัวเรือนแบบใช้แรงบีบอัด (Tension setting) เพชรถูกยึดด้วยตัวเรือนแหวนด้วยแรงอัด 12,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ช่วยทำให้เพชรส่องประกายโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง

3. เลือกแบบตัวเรือนแหวน หมั้น/แหวนแต่งงานเจ้าสาว โดยที่แหวนมักเน้นความโดดเด่นและแวววาวของเพชรเม็ดกลาง โดยมากทำเป็น แหวนเม็ดเดี่ยว (Solitaire) เพชรเม็ดกลางชูเด่น เน้นความเรียบง่าย เพื่อให้เพชรแสดงตัวตนมากที่สุด กรอปกับตัวเรือนที่กว้างเท่าหน้าเพชร (เหมาะกับนิ้วทรงกลมอวบ) ก้านเพรียวเสมอกัน หรือไล่ขนาดก้านจากแคบไปกว้าง (เหมาะกับนิ้วที่มีข้อ ใส่ง่ายและกระชับโคนนิ้ว) บางคนเพิ่มเพชรด้านข้างเป็นแบบ แหวนเพชรสามเม็ด (Trigony) เม็ดกลางใหญ่ดูเด่น เม็ดข้างโค้งรับนิ้วทำให้ดูเต็มนิ้ว มีความหมายถึง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ที่จะไม่เปลี่ยนแม้เวลาจะเปลี่ยนไป หรือเลือกเป็นแบบแหวนทรงบ่าข้าง (Supporter) มีเม็ด กลางเด่นใหญ่และขนาบด้วยบ่าทั้งสองข้าง มีความหมายดีในแง่ใส่แล้วจะมีคนส่งเสริม มีบริวารสนับสนุน หรือจะเลือกเป็นแบบทรงโบราณแหวนรูปทรงดอกไม้ (Flora) เน้นเม็ดกลางเด่นใหญ่ ล้อมด้วยบริวารเล็กรอบด้านจนดูเต็มนิ้ว ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้เม็ดกลางขนาดใหญ่มาก หรือไม่ก็เป็นแหวนรอบนิ้ว (Eternity) เพชรฝังกระจายไปรอบนิ้วในจำนวนที่เป็นมงคล หรือเพชรยึดด้วยตุ่มเตยกลมให้ดูแพรวพราว เหมาะกับนิ้วที่ข้อนิ้วโต เพชรจะไม่ค้ำนิ้ว ใส่สบาย สามารถใส่ได้ทุกวัน มีความหมายเป็นแหวนแห่งนิรันดร

4. เลือกแบบตัวเรือน แหวนหมั้น/แหวนแต่งงานเจ้าบ่าว โดยที่แหวนมักจะมีรูปแบบมักดูเรียบง่าย ขอบมนไม่คม ใส่สบาย เข้านิ้ว ความกว้างของแหวนจะกว้างกว่าแหวนเจ้าสาวโดยขึ้นกับความยาวของนิ้วแต่ละคน การออกแบบตามลักษณะนิ้วเช่น ผิวก้านแบนเรียบ (สำหรับ นิ้วอวบเต็ม ทำให้ใส่สบาย ไม่อึดอัด) ผิวก้านกลมนูน (สำหรับข้อนิ้วโต ช่วยบดบังร่องระหว่างนิ้ว และทำให้ใส่กระชับมากขึ้น) ตัวเพชรมักเรียบไปกับตัวเรือน ขนาดของเพชรพอเหมาะกับความหนา/ความสูงของแหวนที่ต้องการ เนื่องจากต้องมีการเผื่อระยะของก้นเพชรจากตัวนิ้ว ตัวแหวนเพิ่มความทันสมัยด้วยการขัดผิวพื้นด้านโดยรอบ เป็นเงาเรียบ ลงลายเส้น พ่นทราย เซาะร่องขอบ หรือทูโทน (ทองและทองขาวสลับ) รูปแบบแหวนมีได้ตั้งแต่ แหวนปลอกมีด-เกลี้ยง (Classic) แหวนปลอกมีด-เพชรเม็ดเดี่ยว (Solitaire) แหวนเพชรฝังกระจายรอบนิ้ว (Eternity) แหวนทรงบ่า ข้าง (Supporter) แหวนเพชรจำนวนตัวเลข (Lucky Number) โดยอาจวางรูปทรงเรขาคณิต แหวนรอบนิ้ว หรือแหวนทรงบ่าข้าง

 

แหล่งที่มา : ผู้ลงบทความ : หมี เมืองตาก

0 comments: